Why ทำไปทำไม

Why ทำไปทำไม

Why ทำไปทำไม

พวกเราเคยคิดกันบ้างไหมนะว่าทุกวันนี้ที่เราตื่นแต่เช้า ออกไปทำมาหากิน ฝ่าฟันอุปสรรคสารพัด เหนื่อยยากลำบากแค่ไหนก็ยอม…

เราทำกันทำไม ? Why

อ้าว !!! ถามแปลก ๆ ไม่ทำก็อดสิ ไหนจะค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าบ้าน ค่ารถ ค่าเทอมลูก ค่าอาหารการกิน โอ้ยย สารพัดค่าใช้จ่าย ฯลฯ

ไม่ทำได้ไง มันจำเป็นนี่นา…

นั่นน่ะสิ… มันจำเป็น

แล้วเราทำกันไปทำไม ?

อ้าว !!!

…………………..

ราว ๆ ปี พ.ศ. 2555 ในวารสารพรอบเบลมส์ แอนด์ เพอร์สเปกทีฟส์ อิน แมเนจเมนต์ (Problem and Perspective in Management) มีบทความเกี่ยวกับ “ความเชื่อในอำนาจควบคุมจากภายใน” เขียนโดยนักจิตวิทยากลุ่มหนึ่ง พวกเขาเชื่อว่าถ้ามนุษย์เราสามารถทำอะไรก็ตามโดยมีความเชื่อจากภายใน หรือพูดง่าย ๆ ว่ามีแรงจูงใจเป็นพลังขับดันในการทำอะไรสักอย่าง มักจะประสบความสำเร็จมากกว่าคนที่เชื่อในอำนาจควบคุมจากภายนอก…

ไอ้เจ้าค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าบ้าน ค่ารถ ค่าเทอมลูก ค่าอาหารการกิน สารพัดค่าใช้จ่าย ฯลฯ ที่เราตอบคำถามกันมามันก็คือความเชื่อในอำนาจควบคุมภายนอก หรือพูดง่าย ๆ ว่าที่ทำอยู่ทุกวันนี้เพราะเราเชื่อว่า “มันจำเป็น” เราควบคุมไม่ได้

จำเป็นต้องทำ…

…………………..

เวลาเราทำงานเหนื่อย ๆ กลับถึงบ้าน เคยนั่งทบทวนกันบ้างไหมครับว่าที่เราทำไปทั้งหมดเนี่ยนอกเหนือจากความจำเป็นสารพัดอย่างแล้ว สิ่งที่เราทำอยู่ทุกวี่วัน เราทำไปทำไม ?

ผมอยากให้คิดกันสักนิดนะ จริง ๆ

เพราะถ้าคิดไม่ได้ คิดไม่ออก สิ่งที่จะเกิดขึ้นในชีวิตเราก็คือความเบื่อหน่าย ความเครียด ความหดหู่ ทำงานไปวัน ๆ ไม่ทำก็ไม่ได้ และแน่นอนว่าวิธีการคิดแบบนี้ มันก็ยากที่คน ๆ นั้นจะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน (รวมถึงเรื่องส่วนตัวด้วย)

ก็มันเครียด มันเหนื่อย มันก็หงุดหงิดสินะ พอคนใกล้ตัวพูดจาผิดหูหน่อย มันก็เกิดอารมณ์ ทะเลาะกันบ้านแตก เลวร้ายหน่อยก็ถึงขั้นลงมือลงไม้ สุดท้ายก็ลงเอยด้วยการแตกสลายของครอบครัว

เห็นกันอยู่มากมาย ว่าไหมครับ

…………………..

อันที่จริงแล้ว ความเชื่อในอำนาจการควบคุมจากภายในนั้นเป็นเรื่องที่เรียนรู้กันได้ และเป็นหนึ่งในทักษะของการเป็นผู้นำครับผม

ฝึกฝนหาแรงจูงใจในการดำรงอยู่ของเราให้ได้ครับ ผลลัพธ์จากความพยายามมักจะให้รางวัลแก่ผู้กระทำเสมอ

การที่เราไปคิดว่าสิ่งที่เราทำทุกวันนี้เพราะความจำเป็น เป็นความเชื่อที่เราไม่สามารถควบคุมมันได้ เป็นเรื่องของปัจจัยภายนอก ทำไมเราไม่พยายามลองเปลี่ยนมันดูละครับ

แน่นอนทุกคนมีเรื่องจำเป็นกันทั้งนั้น แต่เราทำงานเหนื่อย แทนที่จะคิดว่าที่ทำเพราะต้องหาเงินมาส่งค่าเทอมลูก ทำไมเราไม่ลองมองภาพวันที่ลูกของเราประสบความสำเร็จในอีก 10 ปีข้างหน้า ในขณะเดียวกันเมื่อวันนั้นมาถึง ตัวเราเองที่ทำงานหนักอยู่เนี่ย เรา ณ. วันนั้นยังยืนอยู่ที่จุดเดิมหรือไม่นะ มันต้องดีขึ้นด้วยสิ ว่าไหมล่ะ

ไม่มีใครอยู่ที่เดิมหรอกครับ คิดให้ดี ๆ

สิ่งเดิม ๆ ที่ทำอยู่วันนี้ จะเปลี่ยนหรือทำต่อก็ได้ มันเป็นเรื่องของเรา เราควบคุมมันได้ เราเอามันอยู่ ที่ทำเพราะอยากทำ พยายามหาความเชื่อจากภายใน หาแรงบันดาลใจ หาแรงขับเคลื่อน หาเป้าหมาย

และสุดท้ายเราต้องเชื่ออย่างสนิทใจจริง ๆ นะครับ

ว่าเราควบคุมคุมมันได้ เราเอามันอยู่จริง ๆ

แล้วถามตัวเองอีกครั้งสิครับว่า…

เราทำกันไปทำไม ?

ด้วยรัก

TO THE TOP CLUB
https://www.facebook.com/influentialleaderclub/

Scroll to Top